นโยบายความมั่นคงด้านอาหารของรัสเซีย

 นโยบายความมั่นคงด้านอาหาร 

        นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซีย ในปี ค.ศ. 2016 - 2020 ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลัก ได้รวมเรื่องความ มั่นคง ด้านอาหารเข้าไปด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตร และ กระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน วางนโยบายความมั่นคงด้านอาหารนี้ เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาวิสาหกิจภายในประเทศ ทั้งด้าน เกษตรกรรม ด้านปศุสัตว์ และด้านประมงเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายภาย ในปี ค.ศ. 2020 ประเทศรัสเซียมีความมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาภาค เกษตรขึ้นมาใหม่ได้ เสาหลักของนโยบายความมั่นคงด้านอาหารของ รัสเซีย คือ

1.) ความพร้อมทางกายภาพของอาหาร
2.) การเข้าถึงอาหารทางเศรษฐกิจสำหรับประชาชน                                                                                       3.) ความปลอดภัยของอาหาร สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการ วางรากฐาน

        ทั้ง 3 เสาหลัก จะแบ่งกันบริหาร คือ กระทรวงเกษตรรับผิดชอบ เรื่องของการพัฒนาพื้นที่เกษตร จากเดิมที่ภาคเกษตรมีลักษณะเป็นนา รัฐ-นารวมขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาวะในปัจจุบัน กระทรวง เกษตรได้ทำการจัดสรรที่ดินเพื่อการเกษตรให้กับผู้ผลิตรายย่อย (SME)ในขณะที่กระทรวงการคลังทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้ให้กับภาคเกษตรขนาด กลาง หรือขนาดเล็ก ทำให้ภาคการผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นอย่าง รวดเร็ว แต่ก็ยังขาดเสถียรภาพ มีการแกว่งตัวของราคาสินค้าเกษตร เป็นอย่างมาก ทำให้รัฐบาลต้องพิจารณาถึงการส่งออกสินค้าเกษตรบาง ชนิดด้วย โดยเฉพาะข้าวสาลี รัสเซียผลิตได้เป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ ตาม ในอาหารสินค้าเกษตรบางชนิดที่รัสเซียสามารถผลิตได้ก็จริงจะมีต้นทุนในการผลิตสูงกว่าการนำเข้าหรือบางชนิดไม่สามารถเพาะปลูก ในเขตหนาวได้ จึงจำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศแต่เดิมการนำเข้า ขาดการควบคุมกำกับดูแลที่ดี โดยเฉพาะมาตรการด้านความปลอดภัย จึงทำให้มีสินค้าคุณภาพต่ำเข้ามาในตลาดรัสเซียค่อนข้างมาก รัฐบาลจึงต้องหันมาพิจารณาในเรื่องของมาตรฐาน และคุณภาพในการผลิต การส่งออก และการนำเข้าสินค้าอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากพืช และ สัตว์ โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรเป็นผู้ดำเนินการ

        นโยบายทดแทนการนำเข้า เป็นนโยบายเก่าที่รัฐบาลรัสเซียเริ่มใช้มาตั้งแต่ ในปี ค.ศ. 1998 เนื่องจากการปฏิรูปประเทศ แบบตลาดเสรี และการล่มสลายของระบบความ สัมพันธ์ทางอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม ทำให้การผลิต ภาคอุตสาหกรรมในรัสเซียลดลงเป็นสองเท่า ต่อมาในปีในปี ค.. 2008 เกิดแมเบเกอร์ไครสิสต์ ภาวะถดถอยของตลาดโลก ค่าเงินรูเบิลอ่อน ค่าลงอย่างมาก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตในประเทศและเป็นผลมาจาก ความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น รัฐบาลได้ใช้นโยบายทางเศรษฐ กิจนี้กระตุ้นเศรศกิจของประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทดแทนการนำเข้า สินค้าหรือชื้นส่วนที่เคยเป็นห่วงโซ่อุปทานเดียวกันในสมัยโซเวียต ทำให้ภาคอุตสาหกรรมไม่ต้องผูกพันหรือขึ้นกับอุตสาหกรรมของ ประเทศเพื่อนบ้าน


    ในยุคปี ค.ศ. 2000 การทดแทนการนำเข้าถูกกระตุ้นโดยรัฐบาล อีกครั้งโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่รัสเซียมีศักยภาพ เริ่มจากบริษัท Gasprom และ "Rosneft" บริษัท ที่รัฐเป็นเจ้าของได้จัดโครงสร้างตั้งบริษริษัทรัฐในสาขาต่างๆ เช่น Rostec (อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและ วิศวกรรมเครื่องกล) Rosatom (เทคโนโลยีนิวเคลียร์และพลังงาน) UAC (อุตสาหกรรมสหอากาศยาน) บริษัท รัฐ Rusnano (นาโนเทค โนโลยี) เกือบทั้งหมดเป็นรัฐวิสาหกิจที่ถูกจัดตั้งขึ้นและรัฐสนับสนุนด้าน การเงิน ในรูปแบบของสินเชื่อ

        ต่อมาเมื่อมีการคว่ำบาตรรัสเซีย จากปัญหาไครเมีย ซึ่งรัฐบาลรัสเซียได้สั่งห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจากหลายประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ ทำให้เกิดการผลิตทดแทนการนำเข้า ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จเป็น อย่างมาก เห็นได้จากในไตรมาสที่สองของ ในปี ค.ศ. 2017 ส่วนแบ่งสินค้านำ เข้าในร้านค้ารัสเซียลดลงถึง ร้อยละ 33 ในขณะที่ส่วนแบ่งของผลิต ภัณฑ์อาหารจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ลดลงร้อยละ 21 

       ซึ่งมีสาเหตุ สามประการ:

1. ประการแรกปริมาณการนำเข้าที่สำคัญถูกปิดกั้นจากการห้ามนำเข้า 

2. ประการที่สองค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงทำสินค้านำเข้ามีราคาแพงเกินไป

3. ประการที่สามภาคเกษตรของรัสเซียพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้ามามี ส่วนแบ่งในตลาดแทนสินค้านำเข้าได้อย่างมั่นคงในระยะเวลาที่ห้าม นำเข้าสินค้าอาหารนี้ จนถึงเดือน กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2017 รัสเซียได้แทนที่ มูลค่าการนำเข้าอาหารมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยการผลิตของ ตนเอง โดยรัสเซียมีเป้าหมายที่จะลด การนำเข้าอาหารลงจากร้อยละ 31.2 เป็นร้อยละ 29.8 พันล้านดอลลาร์ ในปี ค.ศ.  2018


            Lalita Ruatrew, Article analyst

            

BACHELOR OF ARTS B.A, RUSSIAN STUDIES 2013-2016 THAMMASAT UNIVERSITY BANGKOK (GPA: 3.68) 

I GOT SCHOLARSHIP OF THAMMASAT U. (UNIVERSITY MOBILITY IN ASIA AND THE PACIFIC: UMAP) I WAS EXCHANGE STUDENT IN SAINT PETERSBURG STATE UNIVERSITY, RUSSIA. FEBRUARY 24-JUNE 23, 2015 

MASTER’S PROGRAMME IN POLITICS AND GOVERNANCE NATIONAL RESEARCH UNIVERSITY HIGHER SCHOOL OF ECONOMICS (HSE), ST. PETERSBURG 2017-2018 

E-mail: newyork.mcc@hotmail.com, WhatsApp: +79679794769, line: newyork1415 



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย อดีต ปัจจุบัน อนาคต
 (ตอนที่ 2)

การค้าสินค้าเกษตรในประชาคมรัฐเอกราช (CIS)

วิกฤตการณ์ทางการเมืองในปี ค.ศ. 1993 (ตอนที่ 1)