เศรษฐกิจไทย-รัสเซีย (SWOT Analysis)



 ทฤษฎี  SWOT  Analysis  วิเคราะห์เศรษฐกิจประเทศรัสเซีย - ไทย




วิเคราะห์เศรษฐกิจประเทศรัสเซีย (SWOT  Analysis)

จุดแข็ง  (Strengths)
  • เป็นตลาดขนาดใหญ่ ปริมาณผู้บริโภคโดยประมาณ  155 ล้านกว่าคน
  • มีทรัพยากรทางพลังงานจำพวกก๊าสธรรมชาติรวมถึงน้ำมันปริมาณมาก
  • เป็นผู้นำทางเทคโนโลยีอวกาศและการผลิตอาวุธสงคราม
จุดอ่อน (Weaknesses)
  • การคอรัปชั่นสูง
  • การเมืองขาดเสถียรภาพเนื่องจากเกิดการประท้วงของประชาชน  และการผูกขาดอำนาจการปกครองของปูติน
  • การลดลงของจำนวนผู้สูงอายุ/ แรงงานในประเทศก็น้อยลง
  • การผลิตสินค้าอุปโภค  บริโภคและสินค้าเกษตรกรรมขาดประสิทธิภาพ
โอกาส  (Opportunities)
  • ใช้องค์กรการค้าโลกช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจ
  • แสวงหาพันธมิตรด้านต่างๆ  เช่น  ทางเศรษฐกิจ การเมือง  และการทหารในภูมิภาคใหม่
อุปสรรค  (Threats)
  • กบฎแบ่งแยกดินแดนต่างๆ  เพื่อต้องการแบ่งแยกตัวเองเป็นอิสระจากรัสเซีย
  • ราคาน้ำมันในตาลดโลกและวิกฤตของโลกซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจรัสเซียโดยตรง

จุดแข็ง (Strengths)

        ประการแรก ในปัจจุบันรัสเซียมีประชากรเป็นจำนวน  โดยประมาณคือ  142,946,800  คน    ซึ่งหมายความว่ามีผู้บริโภคที่อยู่ในภูมิภาคนี้เป็นจำนวนมาก  และรัสเซียเป็นตลาดนำเข้าสินค้าอุปโภคขนาดใหญ่และสำคัญโดยเฉพาะกับประเทสในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    ประการที่สอง  ประเทศรัสเซียเป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเป็นอันดับแรกๆของโลก  เนื่องจากรัสเซียมีทรพยากรเป็นจำนวนมาก  ซึ่งได้สร้างประโยชน์จากการขายทรัพยากรแก่รัสเซียเป็นจำนวนมาก  และรัสเซียก็ได้ใช้ทรพยากรธรรมชาติเป็นตัวขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศอีกด้วย  ในเวทีระดับประเทศนั้นจะถือเป็นการผูกขาดอำนาจกับประเทศที่ต้องพึ่งพาทรัพยากรจากรัสเซีย
        ประการสุดท้าย  ในด้านของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น  รัสเซียถือเป็นประเทศแรกที่สามารถส่งดาวเทียมออกไปโคจรรอบโลกสำเร็จเป็นประเทศแรก  และยังมีวิทยาการด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ที่นำสมัยและยังสามารถผลิตและพัฒนาได้คุณภาพใกล้เคียงกับสหรัฐแต่มีราคาที่ถูกกว่า  จึงทำให้รัสเซียเป็นที่นิยมของนานาประเทศ  ซึ่งในปัจจุบันเกิดการก่อการร้ายรวมถึงการเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมากมายจึงทำให้นานาประเทศมีความจำเป็นด้านอาวุธที่มีคุณภาพและราคาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก  เป็นเหตุให้รัสเซียได้รับรายได้จากการค้าอาวุธอย่ามหาศาล


จุดอ่อน  (Weaknesses)

           ประการแรก  การคอรัปชั่น  ความไม่โปร่งใส่ในด้านต่างๆทางการเมืองหรือทางเศรษฐกิจในรัสเซียนั้นถือเป็นปัญหาแก่รัสเซียเป็นอย่างมาก  และการคอรัปชั่นก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รัสเซียไม่พัฒนาไปเท่าที่ควร  และยังทำให้ประเทศขาดความมั่นคงและความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติและทำให้ไม่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกอีกด้วย
           ประการที่สอง  ปัญหาด้านการขาดเสถียรภาพทางการเมืองนั้น  ยกตัวอย่างได้จากเหตุการณ์ที่มีประชาชนออกมาประท้วงหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนมีนาคม  ..2012  และปูตินก็ได้รับการเลือกตั้งซึ่งเป็นการสร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนบางส่วนที่เห็นว่าการที่ปูตินได้รับเลือกอีกครั้งเป็นการผูกขาดทางอำนาจทางการเมืองและการบริหารประเทศ  และการผูกขาดนี้อาจนำประเทศรัสเซียกลับสู่ยุคแห่งโซเวียตอีกครั้ง  โดยมีเหตุสนับสนุนที่ประชาชนหวั่งเกรงอันเนื่องมากจากตัวของปูตินเองก็เคยทำงานให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ก่อนมา  เป็นต้น
        ประการที่สาม  จากปัญหาการลดลงของประชากรรัสเซียนั้น  สามารถเฉลี่ยได้สัดส่วนลดลงวัน  100  คนและหากยังเกิดการลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างนี้ก็เกิดปัญหาการขาดแคลนประชากรวัยทำงานซึ่งเฉลี่ยละลดลงร้อยละ  20  ภายในปี  ..  2030  และอายุเฉลี่ยของคนรัสเซียปัจจุบันเหลือเพียง  52  ปีเท่านั้น  อันเนื่องมาจากผลกระทบด้านสาธารณสุขที่ขาดมาตรฐาน  และการดื่มสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอออล์อย่างมาของคนรัสเซีย  ทำให้ประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งจึงเป็นสาเหตุให้ประชากรลดลงอย่างรวดเร็วซึ่งต่อผลต่อภาคการผลิต  ทำให้เกิดการขาดแรงงานและขาดการพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจ
        ประการสุดท้าย  ประเทศรัสเซียนั้นสามารถผลิตสินค้าเกษตรกรรมได้มีกี่ชนิดอันเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศ  ในปัจจุบันรัสเซียเน้นการผลิตข้าวสาลีและยังต้องมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากต่างชาติเป็นจำนวนมากเป็นเหตุให้รัสเซียต้องสูญเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก  รัสเซียจึงต้องหันมาพัฒนาภาคการเกษตรและวางนโยบายสำหรับการเกษตรที่ส่งผลระยะยาวเพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

โอกาส  (Opportunities)

        ประการแรก  การที่รัสเซียเลือกใช้องค์กรการค้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยการเข้าร่วม  WTO  (องค์การการค้าโลกอย่างสมบูรณ์แบบทำให้ระบบเศรษฐกิจของรัสเซียเป็นที่ยอมรับในระดับสากล  รูปแบบทางการเงินมีระบบแบบแผนเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงานมากขึ้น  และยังปรับอัตราภาษีให้เทียบเท่าระดับสากลส่งผลให้บริษัทต่างชาติต้องการเข้ามาลงทุนในรัสเซียมากยิ่งขึ้น  โดยเฉพาะด้านธุรกิจพลังงานซึ่งทำให้รัสเซียสามารถลดการพึ่งพาการส่งออกพลังงานของประเทศได้โดยการใช้การลงทุนจากต่างชาติเข้ามาทดแทน  เละทำให้อัตราเสี่ยงต่อวิกฤตทางพลังงานลดน้อยลง  และยังสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ต่างชาติได้ด้วย
    ประการที่สอง  ในปัจจุบันรัสเซียให้ความสำคัญแก่ประเทศในเครือรัฐเอกราชเป็นอันดับ  1  และสหภาพยุโรปเป้นอันดับ  2  โดยจากที่กล่าวมานั้นทำให้รัสเซียมีตลาดที่ใหญ่ขึ้นส่งผลให้รัสเซียได้ประโยชน์อย่างมหาศาลจาก  ทรัพยากรรมธรรมชาติ  เทคโนโลยีและยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง เป็นต้น  และจากที่กล่าวมาหากรัสเซียสามารถเข้าไปเป็นพันธมิตรได้รัสเซียเองก็จะสามารถเข้าไปมีบทบาทและมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจของตนเองให้มีความเหมาะสมกับภูมิภาคต่างๆ ได้มากขึ้น

อุปสรรค์  (Threats)

        ประการแรก  ปัญหาเกี่ยวกับกบฎในรัสเซียนั้นยังคงมีอยู่  เช่น  กบฏเชชเนีนที่มีความพยายามในการแยกตัวเป็นอิสระจากรัสเซียซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงและการบูรณภาพแห่งดินแดนของรัสเซีย  เป็นต้น  ซึ่งปัญหาที่กล่าวมานั้นถือเป็นปัญหาที่รัสเซียยังคงต้องหาทางออกที่ดีสุด  เพื่อรักษาไม่ให้เกิดความบาดหมางกันไปมากกว่านี้
        ประการที่สอง  รัสเซียเป็นประเทศที่มีการผูกขาดด้านพลังงานธรรมชาติ  และเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกเกิดการผันผวนย่อมส่งผลต่อการปรับลดลงของเศษรฐกิจของรัสเซียด้วย  เนื่องจากรัสเซียพึ่งพาการส่งออกน้ำมันเมื่อราคาลดลงเศรษฐกิจของรัสเซียจึงเกิดการชะลอตัวอย่างมาก  เศรษฐกิจขาดเสถียรภาพไป  จำเป็นต้องหามาตราการมาป้องกัน  เช่น  การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ และพัฒนาการส่งออกสินค้าประเภทอื่น  เป็นต้น





วิเคราะห์เศรษฐกิจประเทศไทย (SWOT  Analysis)

จุดแข็ง (Strengths)
  • การศึกษาเริ่มมีการเปิดกว้างเกี่ยวกับการเรียนรู้ในด้านภาษา  วัฒนธรรมเกี่ยวกับประเทศคู่ค้า  
  • ความหลากหลายทางทรัพยากร
  • สถาบันการเงินของไทยมีความมั่นคง นักลงทุนสามารถระดมทุนจากสถาบันการเงินของไทยได้อย่างมั่นใจ และรัฐบาล  เป็นต้น
  • ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมต่างๆ
จุดอ่อน  (Weaknesses)
  • บุคลากรยังขาดความรู้  ความเข้าใจและความสามารถในด้านภาษา  วัฒนธรรมเพื่อใช้ในการติดต่อธุรกิจ
  • รัฐบาลเสถียรภาพในด้านนโยบาย  การบริหาร และการจัดการ ทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
  • เกิดการทุจริตในหน่วยงานต่างๆของรัฐ  เกิดความไม่โปร่งใส่
  • รัฐบาลยังขาดแรงส่งเสริมในการสนับสนุนแก่เอกชนในการเข้าไปร่วมลงทุนในต่างประเทศคู่ค้า (รัสเซีย)
โอกาส  (Opportunities)
  • มีการลงนามร่วมกับต่างประเทศด้านการค้า  การท่องเที่ยว  เป็นต้น
  • นโยบายด้านการเงินที่ผ่อนคลาย
อุปสรรค  (Threats)
  • การแข่งขันจากประเทศที่มีทรัพยากรคล้ายกัน
  • การแข่งขันจากประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานต่ำมาก เช่น จีน และเวียดนาม  เป็นต้น

จุดแข็ง (Strengths)

ประการแรกในด้านของการส่งเสริมด้านการศึกษาของประเทศไทยมีความพยายามพัฒนาอยู่ตลอดเวลาและถือว่าเป็นผลดีต่อด้านเศรษฐกิจกับต่างชาติในการร่วมทุนเนื่องจาก  ทักษะด้านการใช้ภาษาถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างแรกๆในการติดต่อธุรกิจกับต่างชาติ ร่วมถึงการเปิดด้านวิชาการศึกษาแก่บุคคลากรรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความเข้าใจนอกเหนือจากด้านภาษาและยังเพิ่มการเรียนรู้ด้านอื่นๆของประเทศคู่ค้า  ตัวอย่างเช่น  การศึกษาด้านภูมิศาสตร์  เศรษฐกิจ  สังคมและวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ  ตัวอย่างเช่นประเทศรัสเซียหากเทียบกับในอดีตแล้วนั้นถือว่ามีการพัฒนาด้านความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศรัสเซียเป็นอย่างมาก  เนื่องจากประเทศรัสเซียถือว่าเป็นประเทศที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ประเทศคู่ค้าจำต้องศึกษาก่อนลงทุนร่วมกัน  เพื่อให้เกิดผลสำเร็จในการลงทุนนั้นๆ
ประการที่สอง  โดยภาพร่วมของประเทศไทยแล้วนั้นด้านทรัพยากรของประเทศไทยถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยได้อย่างมากมายมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  ว่าจะด้านเศรษฐกิจหรือด้านการท่องเที่ยวเป็นต้น  ฉะนั้นด้านทรัพยากรแล้วนั้นถือว่าเป็นจุดแข็งอย่างมากของประเทศไทยที่จะใช้เป็นแรงดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศไทย
ประการที่สาม  สำหรับสถาบันด้านการเงินของประเทศไทยนั้นถือว่ามีการเปิดอย่างกว้างขว้างและเสรีแก่นักลงทุนในประเทศเป็นอย่าง  ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนก็ต่างให้ความร่วมมือกันในการสนับสนุนระดมเงินทุนเพื่อให้เกิดการประกอบการธุรกิจของคนในประเทศอย่างกว้างขว้าง
ประการสุดท้าย  ประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมหลักๆของภูมิภาคเอเชีย  ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการประกอบการด้านอุตสาหกรรมของต่างประเทศ  จะสังเกตเห็นได้ว่าหลายประเทศเข้ามาลงทุนโดยการให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต  เนื่องจากประเทศนั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากในการเป็นฐานด้านการผลิตของอุตสาหกรรมต่างๆ  ตัวอย่างเช่น  อุตสาหกรรมรถยนต์  เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น  แต่จากที่กล่าวมาก็ไม่สามารถชะล่าใจได้ว่าไทยจะมีผลประกอบการที่ดีตลอดไป  เนื่องจากในหลายประเทศในภูมิภาคนี้มีหลายเป็นประเทศที่แข่งกันเพื่อเป็นประเทศที่เป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้ตลอดเวลา

จุดอ่อน  (Weaknesses)

ประการแรก  แม้ว่าประเทศไทยจะมีการส่งเสริมด้านการศึกษาในด้านภาษามากมายแต่จะพบได้ว่าบุคคลากรที่มีความสามารถในด้านการติดต่อธุรกิจจริงๆนั้น  ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นที่ด้านภาษามีการเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมากและนี้คือจุดอ่อนที่สุดสำหรับประเทศไทยที่ยังไม่สามารถแก้ไขให้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจนัก  โดยปัญหาด้านภาษาถือเป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลต่อการร่วมลงทุนกับต่างชาติเนื่องจาก  ภาษาสามารถแสดงถึงความจริงใจ  จริงจังในการต้องการอยากร่วมลงทุนทำธุรกิจกันได้และสำหรับบางประเทศก็ค่อนข้างให้ความสนใจในด้านนี้  ตัวอย่างเช่นประเทศรัสเซีย  สำคัญบุคลากรไทยต่อภาษารัสเซียถือว่าเรายังขาดแคลนเป็นอย่างมาก  แม้ว่าจะเกิดการศึกษาภาษารัสเซียอย่างกว้างขวางมากขึ้นก็ตาม  แต่จะพบได้ว่าบุคลากรที่มีความสามารถจริงๆนั้นมีน้อยมาก
ประการที่สอง  เสถียรภาพด้านการเมืองของประเทศไทยในช่วงเวลา  3-4  ปีจนกระทั่งปัจจุบัน  สังเกตุได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังขาดเสถียรภาพ  ขาดความพร้อมด้านการเมืองอยู่เป็นอย่างมาก  ตัวอย่าง  เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลก็จะเกิดปัญหาตามมาคือนโยบายที่ไม่ต่อเนื่องสอดคล้องกันเท่าที่ควรเป็น  เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่นโยบายบางโยบายก็ถูกละทิ้งไปทำให้ประเทศไทยต้องเริ่มใหม่อยู่ตลอดเวลา  และจากที่กล่าวถือเป็นข้อเสียลำดับต้นๆที่ทำลายความน่าเชื่อของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนได้
ประการที่สาม  เกิดการคอรัปชั่นในหน่วยงานต่างๆของรัฐ นำมาซึ่งปัญหาด้านการล่าช้าทางเศรษฐกิจ  เมื่อเกิดความไม่โปร่งใสก็นำมาซึ่งความไม่ไว้ของผู้ร่วมลงทุน  เกิดการล่าช้าในการตัดสิน  และไม่ว่าจะเป็นการลงทุนของคนในประเทศเองก็เกิดการติดขัดในด้านต่างๆ  เกิดการเสียค่าใช้จ่ายที่มากกว่าที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ
        ประการสุดท้าย  รัฐบาลแม้มีการสนับสนุนการลงทุนของเอกชนไทยในต่างประเทศแล้วในปัจจุบัน แต่สำหรับบางประเทศอย่างเช่นประเทศรัสเซียแล้วนั้น  การที่เอกชนเข้าไปลงทุนในรัสเซียถือว่ามีน้อยมาก  อันเนื่องมาจากปัญหาในหลายๆด้าน  ตัวอย่างเช่น  ความไม่ไว้ของผู้ประกอบการจากเหตุที่ว่ารัสเซียเองมีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบคอมมิวนิสต์มาสู่ระบอบเสรีอย่างรวดเร็วทำให้อาจจะเกิดการขาดความรู้  ความเข้าใจในระบบตลาดเสรีว่าควรเป็นไปในทิศทางใด  แต่อย่างไรแล้วรัสเซียก็ถือว่าเป็นประเทศที่น่าจับตามองและไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด


โอกาส (Opportunities)

ประการแรก  การลงนามร่วมทางการค้านั้นเป็นการสร้างพันธมิตรทางเกิดค้าใหม่ให้กับประเทศไทยเอง  นำมาซึ่งการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ  เช่น  การที่ไทยได้เข้าร่วม  WTO  ซึ่งโดยหลักของ  WTO นั้นจะมีหลักการไม่เลือปฏิบัติ ( MFN และ National Treatment) หลักการเรื่องความโปร่งใส หลักการคุ้มครองผู้ผลิตภายในด้วยภาษีศุลกากรเท่านั้น เป็นต้น รวมทั้ง ประโยชน์จากพันธกรณีที่สมาชิกผูกพันไว้ในความตกลงย่อยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดภาษีศุลกากร การอุดหนุน และอุปสรรคทางการค้าต่างๆ การเปิดเสรีสินค้าเกษตร การเปิดเสรีสินค้าสิ่งทอ การใช้มาตรการสุขอนามัยต่างๆ ต้องเป็นไปด้วยความเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ เป็นต้น
ประการที่สอง นโยบายการเงินที่ผ่อนผัน  อาทิ การซื้อคืนพันธบัตร การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (Bank Rate) และการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินอื่นๆ เป็นต้น ทั้งนี้การดำเนินมาตรการต่างๆ ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินปรับตัวลดลง ทำให้การลงทุนและเศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น


อุปสรรค  (Threats)

ประการแรก  การพัฒนาจากประเทศใกล้เคียงซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาจนปัจจุบันมีศักยภาพเทียบเท่าไหน  ไม่ว่าจะเป็น  มาเลเซีย  พม่า  เป็นต้น  ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทยยังขาดแคลนแรงงานในด้านต่างๆคนไทยส่วนใหญ่เข้าถึงระบบการเงินได้ยาก ประเทศไทยขาดการรับรองในการตรวจสอบผลผลิตต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน และขาดจุดเชื่อมต่อในการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชน
ประการที่สอง  ประเทศไทยนั้นนอดีตเป็นฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มาเป็นระยะเวลานาน  กระทั่งปัจจุบันในแถบเอเชียนตะวันออกเฉียงนั้นหลายประเทศมีการพัฒนาในด้านของอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นและยังมีข้อดีในเรื่องของต้นทุนแรงที่มีค่าแรงถูกกว่าประเทศไทย  จึงทำให้ต่างประเทศเริ่มหันไปให้ความสนใจกับประเทศอื่นมากขึ้น  ตัวอย่างเช่น  ประเทศจีนและอินเดีย  เป็นต้น

                                                                    

            
                Lalita Ruatrew, Article analyst

BACHELOR OF ARTS B.A, RUSSIAN STUDIES 2013-2016 THAMMASAT UNIVERSITY BANGKOK (GPA: 3.68) 

I GOT SCHOLARSHIP OF THAMMASAT U. (UNIVERSITY MOBILITY IN ASIA AND THE PACIFIC: UMAP) I WAS EXCHANGE STUDENT IN SAINT PETERSBURG STATE UNIVERSITY, RUSSIA. FEBRUARY 24-JUNE 23, 2015 

MASTER’S PROGRAMME IN POLITICS AND GOVERNANCE NATIONAL RESEARCH UNIVERSITY HIGHER SCHOOL OF ECONOMICS (HSE), ST. PETERSBURG 2017-2018 

E-mail: newyork.mcc@hotmail.com, WhatsApp: +79679794769, line: newyork1415 


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ประวัติความสัมพันธ์ไทย-รัสเซีย อดีต ปัจจุบัน อนาคต
 (ตอนที่ 2)

การค้าสินค้าเกษตรในประชาคมรัฐเอกราช (CIS)

วิกฤตการณ์ทางการเมืองในปี ค.ศ. 1993 (ตอนที่ 1)